วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

การสั่งซื้ออิฐมวลเบา


อิฐมวลเบาที่ผลิตในประเทศไทย มีหลากหลายยี่ห้อ ดังนั้นในการสั่งซื้ออิฐมวลเบาเพื่อนำเข้ามาใช้งานในโครงการ ก็ขึ้นอยู่กับรายการประกอบแบบ ของโครงการนั้นๆ ได้ระบุยี่ห้อไหนไว้ หรือหากไม่ได้ระบุไว้ ก็ขึ้นอยู่กับการขออนุมัติวัสดุ ว่าจะยื่นยี่ห้อไหนเข้าไป ในกรณีที่รายการประกอบแบบไม่ได้ระบุไว้ สิ่งที่จะมีผลต่อการส่งยี่ห้อไหนเข้าไปขออนุมัติวัสดุ ก็อาจจะประกอบไปด้วยเหตุผลดังนี้

1) ความเชื่อมั่นในการผลิตและจัดส่งให้ทันต่อการใช้งาน จากโครงการเดิม
2) ราคาของผลิตภัณฑ์ น่าสนใจที่จะสั่งซื้อหรือไม่
3) การบริการที่ดีจาก เจ้าหน้าที่ขายโครงการของผลิตภัณฑ์ นั้นๆ ที่เข้ามาให้ข้อมูลรายละเอียด การจัด       ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และเอกสารสำหรับขออนุมัติวัสดุ

เหล่านี้เป็นเหตุผลเบื้องต้นโดยทั่วไปที่ส่งผลต่อการส่งผลิตภัณฑ์ เข้าไปขออนุมัติวัสดุจาก Consult

ทีนี้ก็จะมาดูรายละเอียดกันว่า เราจะสั่งอิฐมวลเบากันอย่างไร

ก่อนอื่นมารู้จักคุณสมบัติของอิฐมวลเบากันก่อน ( ข้อมูลดีๆนี้จาก บมจ. ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์  )

ความรู้เกี่ยวกับอิฐมวลเบา : ชั้นคุณภาพของคอนกรีตมวลเบา

คอนกรีตมวลเบาสามารถแบ่งชั้นคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้ตามความต้านทานแรงอัด เป็น 4 ชั้นคุณภาพ และแบ่งตามความหนาแน่นเชิงปริมาตรเป็น 7 ชนิดตามตารางด้านล่าง

ชั้นคุณภาพความต้านทานแรงอัด นิวตันต่อตารางมิลลิเมตรชนิดความหนาแน่นความหนาแน่นเชิงปริมาตรเฉลี่ย
ค่าเฉลี่ย
22.50.4
0.5
0.31 ถึง 0.40
0.41 ถึง 0.50
45.00.6
0.7
0.8
0.51 ถึง 0.60
0.61 ถึง 0.70
0.71 ถึง 0.80
67.50.7
0.8
0.61 ถึง 0.70
0.71 ถึง 0.80
810.00.8
0.9
1.0
0.71 ถึง 0.80
0.81 ถึง 0.90
0.91 ถึง 1.00

เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เลือกใช้คอนกรีตมวลเบาชั้นคุณภาพ 2 (G2) และชั้นคุณภาพ 4 (G4)

ชั้นคุณภาพ 2 (G2) เหมาะสำหรับโครงสร้างอาคารระบบเสา-คาน (Non Load Bearing Walls) สามารถกันความร้อนได้ดีกว่า

ชั้นคุณภาพ 4 (G4) เหมาะสำหรับโครงสร้างอาคารระบบไร้เสา-ไร้คาน (Load Bearing Walls) 

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของคอนกรีตมวลเบา
คุณสมบัติชั้นคุณภาพรายละเอียดเปรียบเทียบ
Class 2 (G2)Class 4 (G4)
1. ความหนาแน่นแห้ง ( Dry Density) (kg/ m3)500700G2 เบากว่า G4 40% เพราะมีฉนวนฟองอากาศมากกว่า
2. น้ำหนักผนังความหนา 7.5 ซม. (ไม่รวมฉาบ)
น้ำหนักผนังความหนา 7.5 ซม. (รวมฉาบ)
45
90
60
105
G2 น้ำหนักน้อยกว่า G4 จะประหยัดโครงสร้างอาคารได้มากกว่า
G2 น้ำหนักน้อยกว่า G4 จะประหยัดโครงสร้างอาคารได้มากกว่า
3. ค่ากำลังรับแรงอัด (Compressive Stength) (ksc.)>30>45G2 แข็งแรงมากเกินพอ ในโครงสร้างอาคารระบบเสา-คาน
4. อัตราการกันไฟ ( Fire Rating ) มีความหนา 10 ซม. (ชั่วโมง)44G2 และ G4 ทนไฟได้ไม่แตกต่างกัน
5. อัตราการกันเสียง (STC Rating) (dB)4243G2 และ G4 กันเสียงได้ไม่แตกต่างกัน
6. อัตราการดูดซึมน้ำ (Water Absorption) (%)3538G2 จะดูดซึมน้ำน้อยกว่า G4
7. ค่าการนำความร้อน (Thermal Conductivity) (W/ mK)0.1240.178G2 กันความร้อนได้ดีกว่า G4 เพราะมีฉนวนฟองอากาศมากกว่า




ขอแนะนำผู้บริโภคว่า เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ท่านจะได้รับในการเลือกใช้คอนกรีตมวลเบา มีดังต่อไปนี้

กรณีที่ 1 โครงสร้างอาคารที่มีเสาและคาน ควรใช้งานก่อสร้างผนังด้วย G2 เหมาะที่สุด เพราะเป็นชนิดที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ใช้เทคโนโลยีระดับสูง เพื่อให้ได้เป็น บล็อคเย็น ที่กันความร้อนได้ดีกว่า และมีความแข็งแรงเพียงพอได้มาตรฐาน สามารถเจาะยึดแขวนได้อย่างมั่นใจ

กรณีที่ 2 โครงสร้างอาคารที่ไร้เสาและคาน ควรใช้งานก่อสร้างผนังด้วย G4 เหมาะที่สุด เพราะไม่มีเสา จึงต้องการอิฐที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษในการรับน้ำหนัก

อิฐมวลเบา 1 ตารางเมตรใช้กี่ก้อน ? : สำหรับอิฐมวลเบาแบบอบไอน้ำ ขนาด 20×60 ซม. 1 ตารางเมตรจะใช้อิฐมวลเบา 8.33 ก้อน

ขนาดและน้ำหนักของ อิฐมวลเบา

ขนาด (ซม.)น้ำหนัก (กก.)
20x60x7.55.58
20x60x107.44
20x60x12.59.30
20x60x1511.16
20x60x2014.89
20x60x2518.61
ดังนั้น ในการสั่งซื้ออิฐมวลเบา ก็จะต้องระบุ
1) ความหนา x ความกว้าง x ความยาว
2) ชั้นคุณภาพที่ต้องการ
3) ปริมาณที่ต้องการ
4) ยี่ห้อที่ต้องการ

ระบุให้ครบถ้วน เพื่อที่การจัดซื้อ จะสามารถจัดซื้อได้ถูกต้องตามความต้องการ

และที่สำคัญคือ การสั่งซื้อปูนก่ออิฐมวลเบา และปูนฉาบอิฐมวลเบา เพื่อใช้ดำเนินงานควบคู่กันไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น